กาแฟ Dirty Coffee คืออะไร? ทำไมถึงฮิตกันจัง?
กาแฟ Dirty Coffee หรือ กาแฟเดอร์ตี้ เป็นกาแฟที่กำลังมาแรงในตอนนี้ มีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์คือมีสองชั้นแยกกันอย่างชัดเจน ชั้นบนเป็นกาแฟเอสเปรสโซ่ (Espresso) หรือริสเทรตโต (Ristretto – เอสเปรสโซ่ที่มีความเข้มข้นสูง) ส่วนชั้นล่างเป็นนมสดเย็น ที่ทำให้ได้รสชาติที่แปลกใหม่ มีความหลากหลายอยู่ในแก้วเดียว ซึ่งแตกต่างจากกาแฟลาเต้ (Latte) ที่ชั้นกาแฟจะอยู่ด้านล่าง ส่วนนมอยู่ข้างบน
ที่มาของกาแฟ Dirty Coffee
Dirty Coffee มีต้นกำเนิดมาจากประเทศญี่ปุ่น โดยมีบาริสต้าชื่อว่า Kengo Suzuki เป็นผู้คิดค้นขึ้นในปี 2017 ที่ร้านกาแฟชื่อว่า Switch Coffee Roasters ในโอซาก้า ญี่ปุ่น โดยเขาได้แรงบันดาลใจมาจาก กาแฟ แบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นที่ชื่อว่า “Kotoji” ซึ่งเป็นกาแฟที่ชงโดยการใส่น้ำร้อนลงในถ้วยกาแฟที่มีกาแฟบดอยู่ก่อนแล้ว โดยไม่ใช้เครื่องชงกาแฟใดๆ
ทำไมกาแฟ Dirty Coffee ถึงฮิตกันจัง?
มีหลายเหตุผลที่ทำให้กาแฟ Dirty Coffee ฮิตกันจัง ได้แก่
- รสชาติที่แปลกใหม่และเป็นเอกลักษณ์: กาแฟ Dirty มีรสชาติที่แตกต่างจากกาแฟชนิดอื่นๆ โดยเฉพาะกาแฟลาเต้ ซึ่งเป็นกาแฟนมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศไทย กาแฟ Dirty จะมีรสชาติที่เข้มข้นกว่ากาแฟลาเต้ และมีความหวานน้อยกว่า เพราะไม่ได้เติมน้ำตาลหรือไซรัปเพิ่ม
- หน้าตาที่สวยงาม: กาแฟ Dirty มีหน้าตาที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ โดยมีสองชั้นแยกกันอย่างชัดเจน ชั้นบนเป็นกาแฟเอสเปรสโซ่ ชั้นล่างเป็นนมสดเย็น ซึ่งเมื่อเทกาแฟลงไปในนมสด จะเกิดเป็นลวดลายที่สวยงามและแตกต่างกันไปในแต่ละแก้ว
- วิธีการชงที่ง่าย: กาแฟ Dirty สามารถชงได้ง่ายๆ ที่บ้าน เพียงแค่มีเครื่องชงกาแฟแบบ Moka Pot และเครื่องตีฟองนมเท่านั้น
สูตรการชงเมนู Dirty Coffee แบบง่ายๆ ที่บ้าน
ส่วนผสม:
- กาแฟบด 18 กรัม
- น้ำร้อน 90 มิลลิลิตร
- นมสดเย็น 120 มิลลิลิตร
อุปกรณ์:
- เครื่องชงกาแฟแบบ Moka Pot
- เครื่องตีฟองนม
- แก้วใส
วิธีทำ:
- นำน้ำร้อนใส่ลงในถังน้ำของเครื่องชงกาแฟแบบ Moka Pot
- ใส่กาแฟบดลงในตะกร้ากาแฟ และอัดให้แน่นพอประมาณ
- นำตะกร้ากาแฟใส่ลงไปในถังน้ำ แล้วปิดฝาเครื่องชงกาแฟ
- นำเครื่องชงกาแฟขึ้นตั้งบนเตาไฟ และเปิดไฟแรงจนกระทั่งได้ยินเสียงน้ำเดือด
- หลังจากนั้นลดไฟลงเป็นไฟอ่อน และปล่อยให้กาแฟชงต่อจนกระทั่งไหลครบปริมาณ
- เทนมสดเย็นลงในแก้วใส
- เทกาแฟเอสเปรสโซ่ลงไปในแก้วนมสดเบาๆ โดยให้กาแฟอยู่ชั้นบน นมสดอยู่ชั้นล่าง
- ใช้เครื่องตีฟองนมตีฟองนมสดให้ขึ้นฟู
- เทฟองนมสดลงไปบนกาแฟ
- พร้อมเสิร์ฟ
เคล็ดลับการชงกาแฟ Dirty Coffee
- ใช้กาแฟบดที่สดใหม่: เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติและกลิ่นหอมที่ดีที่สุด ควรใช้กาแฟบดที่สดใหม่เสมอ กาแฟบดที่สดใหม่จะมีรสชาติที่เข้มข้นและหอมกว่ากาแฟบดที่เก่า
- อัดกาแฟบดให้แน่นพอประมาณ: การอัดกาแฟบดให้แน่นพอประมาณจะช่วยให้ได้กาแฟที่มีรสชาติที่เข้มข้นและครีมมี่
- ใช้นมสดเย็น: การใช้นมสดเย็นจะช่วยให้ได้กาแฟที่มีรสชาติที่เข้มข้นและหอมกว่าการใช้นมสดอุ่นหรือนมสดร้อน
- เทกาแฟเอสเปรสโซ่ลงไปเบาๆ: การเทกาแฟเอสเปรสโซ่ลงไปเบาๆ จะช่วยให้ได้กาแฟที่มีชั้นนมที่ชัดเจน
- ใช้เครื่องตีฟองนมคุณภาพดี: การใช้เครื่องตีฟองนมคุณภาพดีจะช่วยให้ได้ฟองนมที่มีความละเอียดและฟูนุ่ม
เมนูกาแฟ Dirty Coffee ที่น่าสนใจ
นอกจากเมนู Dirty Coffee แบบดั้งเดิมแล้ว ยังมีเมนูกาแฟ Dirty Coffee ที่น่าสนใจอีกมากมาย เช่น
- Dirty Coffee ใส่วิปปิ้งครีม: เป็นการเพิ่มความเข้มข้นและครีมมี่ให้กับกาแฟ Dirty Coffee โดยเทวิปปิ้งครีมลงไปบนกาแฟ
- Dirty Coffee ใส่ช็อกโกแลต: เป็นการเพิ่มความเข้มข้นและรสชาติให้กับกาแฟ Dirty Coffee โดยใส่ซอสช็อกโกแลตลงไปบนกาแฟ
- Dirty Coffee ใส่ชานมไข่มุก: เป็นการผสมผสานระหว่างกาแฟและชานมไข่มุกได้อย่างลงตัว
บทสรุปของกาแฟเมนูนี้
Dirty Coffee เป็นกาแฟที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ด้วยรสชาติที่เข้มข้นและหอม หน้าตาที่สวยงาม และวิธีการชงที่ง่าย ทำให้กาแฟ Dirty Coffee เป็นกาแฟที่เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการดื่มกาแฟที่มีรสชาติแปลกใหม่และดื่มด่ำกับบรรยากาศที่สวยงาม